Sunday, July 22, 2007

เจนนิเฟอร์ คิ้ม ผู้หญิงเสียงสวย

ดูจับเข่าคุยเมื่อคืนวันก่อน สรยุทธสัมภาษณ์เจนนิเฟอร์คิ้ม ฟังแล้วชอบความตรงไปตรงมาของผู้หญิงคนนี้สุดๆ

"ความรู้สึกของคนที่แพ้กับคนที่ชนะเนี่ยมันคนละเรื่องเลยนะ หนูไม่รู้ว่าคนอื่นรู้สึกยังไง แต่หนูรู้กว่าจะเอาหนูไปยืนทำไมตรงนั้น"
"หนูเคยเป็นนักร้องหน้าม่าน แล้วเจ้าของงานเค้าก็เชิญนักร้องซุปเปอร์สตาร์มา ผู้หญิงที่เป็นนักร้องเค้าไม่ได้ตั้งใจหรอกนะ แต่ว่ากระโปรงเต้ามาโดนหน้าหนู"

Finally.....

วันนี้ตอน 11 โมง เราออกจากบ้านไปจะเยี่ยมอาโกว แต่แวะกินข้าวที่ carrefou ก่อน
แล้วก็แวะที่บ้านใหม่

น่าแปลกที่โรงพยาบาลโทรมาบอกให้ไป "ดูใจ"เอาตอนที่พวกเราทุกคนมากันครบที่บ้านใหม่
และน่าแปลกที่ทั้งครอบครัวเรา อาเจ็ก-อาซิ่ม เฮียพ้ง-เจ๊ติ๊ก ตั่วเจ๊-เจ๊หุย-เจ๊นิ๊ว-เจ๊นันมาถึงบ้าน
ในเวลาไล่เลี่ยกันโดยไม่ได้นัดหมายกันก่อน เจ๊นิ๊วเป็นคนที่พูดขึ้นมาก่อนว่า "มาพร้อมหน้ากันอย่างงี้ก็ดีเลย
เดี๋ยวมาประชุมกันหน่อยดีกว่าว่าจะเอายังไงกันดี เดี๋ยวไปคุยกันที่บ้านอาซาโกวดีกว่า" พูดยังไม่ทันขาดคำ โรงพยาบาลก็โทรมา
หลังจากนั้นทุกคนก็รีบออกจากบ้านมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล ไปถึงตอนที่ระดับการเต้นของหัวใจอยู่ที่ 27/นาที
เราเข้าไปในห้อง ICU ไปยืนอยู่ข้างเตียงอาโกว จนกระทั่งหมดลมหายใจ..ในเวลา 14.10

ค่าใช้จ่ายในร.พ.ทั้งค่าห้องค่ายาค่าหมอ ค่าพยาบาล ฯลฯ เป็นเงิน 50,000 บาท บอกว่าถ้ามีบัตรซีเอ็ดลด 10 %
(แต่ลดเฉพาะค่ายาและค่าห้องเท่าน้น)

อาโกว

เมื่อกี้โทรหาม้ากับอาเจ๊ รู้ว่าอาโกวสมองตาย (brain death) แล้ว ตอนนี้หน้าเขียวแล้ว หมอบอกว่าให้ทำใจ....
เฮียเล็กบอกว่าเจ๊คุยกะหมออยู่ แต่อาโกวอาการแย่ลงกว่าเดิม ย้ำอีกว่าหมอบอกให้ทำใจ.....
เศร้าจนต้องเข้าห้องพระไปอธิษฐาน...
ทำไมทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วแบบนี้นะ.... ก็อาโกวย้ายไปอยู่บ้านใหม่ได้แค่แป็บเดียวเอง เราเองก็เพิ่งทำเรื่องจัดการมรดกให้เฮียฮกเอ็งเค้าอยู่เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง
อยากมีเวทมนตร์ จะได้เสกให้อาโกวไม่หกล้มเมื่อวาน.......แค่หกล้มครั้งเดียว...เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตทีเดียวนะ....
หลังจากนี้หุ้นส่วนและพี่น้องที่เคยมีกัน 4 คน ก็จะเหลือแค่ 3 คน.....
เหตุเกิดจากเมื่อวานแท้ๆ
ที่อาโกวไปดัดผมแถวประตูน้ำ
โดยนั่งรถเมล์มารับอาโหมวที่บ้านบรรทัดทองไปด้วยกัน
แต่ตอนกลับอาโกวก็ต้องมาส่งอาโหมว ซึ่งกลับมาถึงบ้านตอนบ่าย 3 โมงกว่าๆ....
แต่ว่าอาโกวไม่ได้แวะมาที่บ้านบรรทัดทอง แต่เลยไปบ้านศรีนครินทร์เลย....
ใครจะรู้ว่านั่นจะเป็นการเดินทางกลับบ้านครั้งสุดท้ายในชีวิต...
อาโกวหกล้มที่หน้าบ้าน ศรีษะด้านหลังฟาดกับพื้นปูน
โดยยังไม่ทันได้ไขกุญแจเข้าไปในตัวบ้านเลย
เราคาดกันว่าอาโกวน่าจะถึงบ้านราวๆ 5 โมงเย็น แต่กว่าเจ๊หุยซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์คนแรกจะมาเจออาโกวก้ราวๆหกโมงเย็น
กว่าจะมีคนไปเห็นอาโกวต้องนอนร้องโอยๆอยู่หน้าบ้านณ.จุดเกิดเหตุอยู่เป็นชั่วโมง
ภาพที่เห็นคืออาโกวร้องนอนอยู่กับพื้นศรีษะอยู่ในกะละมัง ร้องครางโอยโอย
จึงรีบพาอาโกวเข้าบ้าน ถามว่าจะพาไปหาหมอเอาไม๊ อาโกวก็บอกว่าหม่ายหม่าย
แต่เฮียสุพจน์ซึ่งถูกโทรตามตัวมาทันทีหลังเกิดเหตุ เห็นว่าไม่ส่งโรงพยาบาล ไม่ได้แน่ เพราะดูอาการหนักเกินกว่าจะยอมปล่อยตามใจ
จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลศีขรินทร์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในละแวกนั้น

หมอตรวจเอ๊กซเรย์ 2 รอบ พบว่ามีเลือดคั่งในสมอง ที่ต้องผ่าออก และดูจากอาการในขณะนี้แล้วจะต้องผ่ามากกว่า 1 ครั้ง
ทั้งนี้หมอไม่รับรองผลด้วยว่าผ่าแล้วจะสำเร็จไม๊ เพราะคนไข้กอายุ 85 ปีแล้ว หมอไม่อาจรับรองผลใดๆได้ทั้งสิ้น
หากจะผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออก หมอคิดว่ามีโอกาสหายแค่ 50 – 50 เท่านั้น

ทุกคนทราบข่าวกันตอนประมาณ 3 ทุ่ม หลายคนไปเยี่ยม ซึ่งตอนนั้นอาโกวเริ่มไม่รู้สึกตัวแล้ว ลืมตาไม่ได้ พูดไม่ได้ มีเพียงปฏิกิริยาสนองเมื่อพยาบาลจะฉีดยา ก็เอามือปัดป้อง
ห้อง ICU ให้เข้าเยี่ยมได้ทีละ 2 คน และปิดตอน 4 ทุ่ม คืนนั้นบางคนที่ไปเยี่ยมคาดกันว่าอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา

แต่เช้านี้ อาเจ๊รีบไปดูอาการที่ห้องไอซียูแต่เช้า อาโกวมีอาการสมองบวม....และในเวลาถัดมาก็เริ่มมีอาการสมองตายตามมา

จากนี้ไปคนที่รักเราก็จะน้อยลงหนึ่งคน
ต่อไปนี้คนที่คอยไหว้เจ้าขอพรให้เราโชคดีก็จะน้อยลงอีกหนึ่งคน
ต่อไปจะไม่มีใครคอยฝากขนมนมเนยมาให้อีกแล้ว
ไม่มีใครคอยกอด คอยลูบเนื้อลูบตัวเวลาที่เจอกันแล้ว
ไม่มีเสียงถามทำไมวันนี้อาอ้อไม่มาด้วยล่ะ อาอ้อไปไหน
ไม่มีใครคิดถึงกันอีกแล้ว

Saturday, July 14, 2007

No Manner

ไม่มีมารยาทเลย ไม่เคยสนใจเลยหรือไงว่า privacy อ่ะมันเป็นเรื่องสำคัญนะ ช่วยเคารพ privacy ของเพื่อนหน่อยดิ ไม่ใช่นึกจะเปิดกระเป๋าเพื่อนก็เปิด จะรื้อจะค้นอะไรก็ได้

Tuesday, July 10, 2007

Little Home Bekery








Let's eating.....



Special Thank to Big NUUI

หนุ่ย....
ขอบคุณสำหรับรูป และมิตรภาพที่มีให้กันนะ จะบอกว่าดีใจที่ได้รู้จักและได้เป็นเพื่อนกับหนุ่ย
เรายังจำวันที่หนุ่ยเต้นเพลง "ผู้หญิง ผู้หญิง" ในงาน Getting to Know You ได้
เหมือนกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานเลยนะ.. :)

ซองเอกสาร

ซองเอกสารนี้มันเดินทางไกลไปถึงนครนายกเชียวนะ :)

ช้างในซองมีเอกสาร พร้อม comment จากใครคนนึง
ขอบคุณนะคะที่ช่วย comment ให้






Sunday, July 08, 2007

วันนี้...เราอาจรู้สึกผูกพันต่อสิ่งหนึ่ง
จนคิดว่าเราขาดไม่ได้ ...
แต่เวลาจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป ...
สักวันเราจะรู้ว่า...
สิ่งที่เราผูกพันในวันนี้. ..
เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่เติมชีวิตเรา
ไม่ใช่...ทั้งหมดของชีวิตเรา
วันหนึ่ง...หากเรามีโอกาสได้เจอสิ่งที่ถูกใจสิ่งใหม่
ที่เราคิดว่าเราพึงใจ...ปรารถนา...ต้องการ...ขาดไม่ได้
เราก็จะเริ่มผูกพันกับสิ่งใหม่ได้ในเวลาไม่นานนัก..
เมื่อเวลาหนึ่งผ่านไป
จะสอนเราได้เองว่า ...
ความผูกพันกับสิ่งใดๆในช่วงเวลาหนึ่ง
จะเป็นความสุขในช่วงเวลานั้น ๆ อย่าได้ไปยึดติด
อย่าได้ไปใช้ชีวิตทั้งชีวิตลุ่มหลง...
คิดเสียว่า...เราโชคดี...ที่มีโอกาสได้ผูกพันกับสิ่งที่เรารัก
ความผูกพัน...ก็เหมือนกับความรัก...
หรืออาจจะเป็นผลพวงที่มาจากความรัก
หากเรารักใครคนใดคนหนึ่งมาก
เราก็จะรู้สึกว่าผูกพันมาก
แต่ความผูกพันที่ว่า... ไม่ได้ หมายถึงการหยุดตัวเอง ไว้กับสิ่งนั้นๆ ...
เพราะคนเราทุกคนย่อมผูกพันกับหลายๆสิ่ง
เปรียบเสมือน เรามีแก้วนำอยู่หนึ่งใบ
ในยามเช้า...เราอาจต้องใช้แก้วใบนี้ดื่มนม
พออากาศร้อนหน่อย...เราอาจต้องการน้ำเย็น ๆ
บางครั้งที่เราไม่สบาย...เราอาจต้องการน้ำอุ่น
ใจเราก็เหมือนกับแก้วน้ำ...
ต้องเติมสิ่งต่าง ๆ ในเวลาที่แตกต่างกัน.. .ตามความเหมาะสม
หากเราเติมน้ำเย็นลงไปในแก้วน้ำ
แล้วเติมน้ำร้อนลงไปในทันที ในแก้วใบเดียวกัน
เราก็จะพบว่า...แก้วใบนั้น...ก็จะร้าว...แล้วเริ่มแตก
ซึ่งก็เหมือนกับใจเรา...
ความผูกพันต่อสิ่งหนึ่งสิ่งใดในช่วงเวลาหนึ่ง...ไม่ผิด
ถ้าเราค่อยๆปรับใจ...ปรับตัวของเราเอง...
ให้กลับคืนในเวลาที่ควร เพราะอย่างน้อยที่สุด...
เราก็มีโอกาส...ได้ผูกพัน... ซึ่งก็เหมือนเรามีโอกาส...ได้รัก นั่นเอง
ถ้าคุณมีความสุขที่เห็นเค้าเดินกับคนอื่น ...คือ...ความรัก
ถ้าคุณเศร้า...เหงา...คิดถึงเค้า...อยากเจอ...อยากพูดคุย ...คือ...ความรัก
ถ้าคุณร้อนรนที่เค้าอยู่กับใครๆที่ไม่ใช่คุณ ...คือ...ความใคร่
อยากเก็บไว้เป็นเจ้าของคนเดียว
ถ้าคุณเมามาย...เค้าลูบหลังไหล่...ดูแล ...คือ...ความรักที่บริสุทธิ์ใจ
ถ้าคุณเมามาย...เค้ากอดและสัมผัสร่างกาย ...คือ...ความใคร่จากเค้าของคุณ
ถ้าคุณเข้าหา...แต่เค้าหนี... ...คือ ...ความใคร่ ที่หมดเยื่อใยแล้ว
ถ้าคุณหนี...แต่เขาวิ่งตามมา... ... คือ...ความรักที่ยังไม่มีจุดจบ
ถ้าคุณร้องไห้...ให้กับคนที่ไม่มีเยื่อใยในตัวคุณ ...คุณคือ...คนโง่...และบ้า อย่างน่าอาย
แต่ถ้าคุณพอใจ...จงรัก...และมอบความรักให้กับเค้า
แม้มันจะไม่กลับมาหาคุณก็ตาม จงดีใจที่ได้รักซะวันนี้...
ดีกว่าที่จะมานั่งเสียใจในวันหน้า
จงภูมิใจที่มีความใคร่...เสน่หา เพราะมันจะไม่ย้อนกลับมาหาอีกต่อไป...
“คนที่รักกับคนที่ชอบ”

ต่อหน้าคนที่คุณรักหัวใจคุณเต้นรัว
ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณรู้สึกมีความสุข

ต่อหน้าคนที่คุณรักฤดูหนาวเป็นเหมือนฤดูใบไม้ผลิ
ต่อหน้าคนที่คุณชอบฤดูหนาวเป็นฤดูหนาวที่งดงาม

ถ้าคุณจ้องตาคนที่คุณรักคุณจะหน้าแดง
ถ้าคุณจ้องตาคนที่คุณชอบคุณจะยิ้มออกมา

ต่อหน้าคนที่คุณรักคุณไม่สามารถพูดทุกสิ่งที่อยู่ในใจคุณได้
ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณทำได้

ต่อหน้าคนที่คุณรักคุณจะเขินอาย
ต่อหน้าคนที่คุณชอบคุณเปิดเผยความเป็นคุณได้

คนที่คุณรักมักเข้ามาอยู่ในใจคุณทุกสองนาที
คุณไม่สามารถสบตาคนที่คุณรักตรงๆได้
แต่คุณสามารถยิ้มสบตาคนที่คุณชอบได้ตรงๆ

เมื่อคนที่คุณรักร้องไห้คุณจะปลอบโยน
แต่เมื่อคนที่คุณชอบร้องไห้คุณร้องไห้ไปกับเขา

ความรู้สึกรักเริ่มต้นจากดวงตา
ความรู้สึกชอบเริ่มจากที่หู
ฉะนั้นถ้าคุณจะเลิกชอบคนที่คุณชอบแค่ปิดหูของคุณเท่านั้นก็พอ

แต่ถ้าคุณพยายามจะปิดตารักจะกลายเป็นน้ำตา
และเมื่อคุณเปิดตาขึ้นอีกครั้ง .....
คุณก็จะได้รู้ว่า สิ่งที่คุณเสียไปคือคนที่คุณรัก......
Wishes

I looked in the sky and there
I saw a star shining so bright above
I closed my eyes and wished upon a star
That I would find true love

Someone who needed me
Someone to share my life
For a love that would be true
I would wait forever
So...no...matter how long it may be
I will be waiting

One star-brighter than the others
Two hearts-beating for each other
I believe wishes really do come true

Love at first sight
I knew it from the moment
When you said hello
I hoped you felt it too,
But we were both so shy
how was I to know
When you reached for my hand
I knew you were the one
We laughed and talked for hours
like I'd known you forever
Like...a...Dream or something from a book
True love has found me

One star-brighter than the others
Two hearts-beating for each other
Now I see wishes really do come true

You just have to dream
Nothing's as bad as it seems to be...believe me
Someone's waiting for you to try
There in the sky

One star-brighter than the others
Two hearts-beating for each other
You will see wishes really do come true

You can't stop believing-wishes do come true
You gotta believe me wishes do come true...