Sunday, July 22, 2007

อาโกว

เมื่อกี้โทรหาม้ากับอาเจ๊ รู้ว่าอาโกวสมองตาย (brain death) แล้ว ตอนนี้หน้าเขียวแล้ว หมอบอกว่าให้ทำใจ....
เฮียเล็กบอกว่าเจ๊คุยกะหมออยู่ แต่อาโกวอาการแย่ลงกว่าเดิม ย้ำอีกว่าหมอบอกให้ทำใจ.....
เศร้าจนต้องเข้าห้องพระไปอธิษฐาน...
ทำไมทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วแบบนี้นะ.... ก็อาโกวย้ายไปอยู่บ้านใหม่ได้แค่แป็บเดียวเอง เราเองก็เพิ่งทำเรื่องจัดการมรดกให้เฮียฮกเอ็งเค้าอยู่เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง
อยากมีเวทมนตร์ จะได้เสกให้อาโกวไม่หกล้มเมื่อวาน.......แค่หกล้มครั้งเดียว...เป็นจุดเปลี่ยนชีวิตทีเดียวนะ....
หลังจากนี้หุ้นส่วนและพี่น้องที่เคยมีกัน 4 คน ก็จะเหลือแค่ 3 คน.....
เหตุเกิดจากเมื่อวานแท้ๆ
ที่อาโกวไปดัดผมแถวประตูน้ำ
โดยนั่งรถเมล์มารับอาโหมวที่บ้านบรรทัดทองไปด้วยกัน
แต่ตอนกลับอาโกวก็ต้องมาส่งอาโหมว ซึ่งกลับมาถึงบ้านตอนบ่าย 3 โมงกว่าๆ....
แต่ว่าอาโกวไม่ได้แวะมาที่บ้านบรรทัดทอง แต่เลยไปบ้านศรีนครินทร์เลย....
ใครจะรู้ว่านั่นจะเป็นการเดินทางกลับบ้านครั้งสุดท้ายในชีวิต...
อาโกวหกล้มที่หน้าบ้าน ศรีษะด้านหลังฟาดกับพื้นปูน
โดยยังไม่ทันได้ไขกุญแจเข้าไปในตัวบ้านเลย
เราคาดกันว่าอาโกวน่าจะถึงบ้านราวๆ 5 โมงเย็น แต่กว่าเจ๊หุยซึ่งเป็นคนเห็นเหตุการณ์คนแรกจะมาเจออาโกวก้ราวๆหกโมงเย็น
กว่าจะมีคนไปเห็นอาโกวต้องนอนร้องโอยๆอยู่หน้าบ้านณ.จุดเกิดเหตุอยู่เป็นชั่วโมง
ภาพที่เห็นคืออาโกวร้องนอนอยู่กับพื้นศรีษะอยู่ในกะละมัง ร้องครางโอยโอย
จึงรีบพาอาโกวเข้าบ้าน ถามว่าจะพาไปหาหมอเอาไม๊ อาโกวก็บอกว่าหม่ายหม่าย
แต่เฮียสุพจน์ซึ่งถูกโทรตามตัวมาทันทีหลังเกิดเหตุ เห็นว่าไม่ส่งโรงพยาบาล ไม่ได้แน่ เพราะดูอาการหนักเกินกว่าจะยอมปล่อยตามใจ
จึงรีบพาส่งโรงพยาบาลศีขรินทร์ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในละแวกนั้น

หมอตรวจเอ๊กซเรย์ 2 รอบ พบว่ามีเลือดคั่งในสมอง ที่ต้องผ่าออก และดูจากอาการในขณะนี้แล้วจะต้องผ่ามากกว่า 1 ครั้ง
ทั้งนี้หมอไม่รับรองผลด้วยว่าผ่าแล้วจะสำเร็จไม๊ เพราะคนไข้กอายุ 85 ปีแล้ว หมอไม่อาจรับรองผลใดๆได้ทั้งสิ้น
หากจะผ่าตัดเอาเลือดที่คั่งในสมองออก หมอคิดว่ามีโอกาสหายแค่ 50 – 50 เท่านั้น

ทุกคนทราบข่าวกันตอนประมาณ 3 ทุ่ม หลายคนไปเยี่ยม ซึ่งตอนนั้นอาโกวเริ่มไม่รู้สึกตัวแล้ว ลืมตาไม่ได้ พูดไม่ได้ มีเพียงปฏิกิริยาสนองเมื่อพยาบาลจะฉีดยา ก็เอามือปัดป้อง
ห้อง ICU ให้เข้าเยี่ยมได้ทีละ 2 คน และปิดตอน 4 ทุ่ม คืนนั้นบางคนที่ไปเยี่ยมคาดกันว่าอาจจะเป็นเจ้าหญิงนิทรา

แต่เช้านี้ อาเจ๊รีบไปดูอาการที่ห้องไอซียูแต่เช้า อาโกวมีอาการสมองบวม....และในเวลาถัดมาก็เริ่มมีอาการสมองตายตามมา

จากนี้ไปคนที่รักเราก็จะน้อยลงหนึ่งคน
ต่อไปนี้คนที่คอยไหว้เจ้าขอพรให้เราโชคดีก็จะน้อยลงอีกหนึ่งคน
ต่อไปจะไม่มีใครคอยฝากขนมนมเนยมาให้อีกแล้ว
ไม่มีใครคอยกอด คอยลูบเนื้อลูบตัวเวลาที่เจอกันแล้ว
ไม่มีเสียงถามทำไมวันนี้อาอ้อไม่มาด้วยล่ะ อาอ้อไปไหน
ไม่มีใครคิดถึงกันอีกแล้ว

No comments: