Saturday, December 16, 2006

My University

วันนี้สอบเสร็จแล้ว :)
แต่ยังมีเรื่อง IS มากวนใจอยู่ *Sigh*

เห็นว่าเมื่อวานมีคนส่ง forward e-mail รายละเอียดที่มีคนไปด่ามหาลัยใน web pantip มาให้ทั้งมหาลัยดู
เราแอบเข้าไปดูใน web link ก็เห็นว่ามีคนด่าจริง (แถมข้อความส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องจริงซะด้วย)

ก็ดูเหมือนรุ่นที่มีปัญหาจะเป็นรุ่น 49 (รุ่นแรกที่ย้ายมาเรียนตึกใหม่) เพราะรุ่นก่อนหน้านั้น(เช่นเรา เป็นต้น) ยังมีความพึงพอใจในตัวอาจารย์ผู้สอนหลายๆท่าน และพอใจในระบบการจัดการของหลักสูตรอยู่ แต่พอย้ายตึกใหม่แล้วมีหลายอย่างเปลี่ยนไป (ในทางที่แย่ขึ้น) ซึ่งไม่เป็นที่พอใจของเรามากๆ เช่น

1. จำนวนชม.เรียนลดลง โดยไม่มีการแจ้งเหตุผลให้นักศึกษาทราบมาก่อนเลย (แถมมารู้เหตุผลทีหลังจากอาจารย์ซึ่งไม่ได้มีหน้าที่ต้องมาแจ้ง แต่จริงๆมันเป็นหน้าที่ ocordinator ซึ่งไม่เคยโผล่ศรีษะมาบอกอะไรเล้ย) (ด้วยเหตุผลว่าต้องการให้หลักสูตรไทยจบหลักสูตรพร้อมกันกับภาคอินเตอร์) จึงต้องร่นชม.ของภาคไทยลงมา (ไม่มีเหตุผลอื่นที่ดีกว่านี้หรือไง เพราะถ้าให้เหตุผลแบบนี้ก้อแปลว่านักศึกษาภาคไทยขาดทุน เพราะว่าจ่ายค่าเรียนเท่าเดิม แต่ว่าจำนวนชม.เรียนลดน้อยลงไป 6 ชม. - ใครจะรับผิดชอบเงินที่เราขาดทุนไปอ่ะ เพราะถ้าคำนวณดูก็เป็นเงินไม่น้อยเลยนะ ลองคำนวณเล่นๆละกันว่าค่าเทอม 50,000 บาท ต่อ 14 ครั้งเนี่ยมันตกครั้งละเท่าไหร่ บอกให้เลยก็ได้ตกครั้งละ 3,500 บาท เพราะฉะนั้นสองครั้งก็ตก 7,000 บาท)
(ถ้ามี refund ให้จะไม่ว่าสักคำเลยอ่ะ)

2. ไม่มี text book ให้ (บางเล่ม) ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ในเมื่อตอนที่มาสมัครเรียน เราได้รับข้อมูลว่าเราไม่ต้องจ่ายค่า text book เพิ่มจากค่าเทอมอีก เพราะมันถูก include ในค่าเทอมแล้ว แต่ในความเป็นจริง
ถ้าวิชาใดๆ ที่ต้องมีหนังสือเรียนเกิน 1 เล่ม เล่มที่ 2 จะต้องซื้อเอง (แต่ต่อมาอาจารย์สั่งให้ทางมหาลัยถ่ายเอกสารแจก-ก้อยังดีวะ ไงก็ทำไรไม่ได้แล้วนี่)

3. มี Coordinator ก็เหมือนไม่มี เพราะมันไม่เคยมาชี้แจงอะไรเล้ย อย่างเช่น จำนวนชม.ถูกลด, นโยบายบางอย่างของมหาลัยเปลี่ยนแปลง หรือว่าตึกจะซ่อมโรงอาหารไม่เปิด มั๊นก็ไม่เคยมาบอก

4. แถมมีนโยบายบางอย่างที่แปลก แต่ไม่รู้จะถามใคร (ก็คนคิดนโยบายมันไม่เคยให้ coordinator มาบอกนิ) เช่น ทำไมต้องจัด reading week (ให้หยุดอ่านหนังสือ) หลังสอบ (ด้วยวะ - ก็มันอ่านหนังสือสอบจนสอบเสร็จไปแล้วอ่ะ จะให้อ่านอะไรอีกฟระ) แทนที่จะหยุดในสัปดาห์ก่อนสอบ เพราะว่านักศึกษาจำนวนมากต้องลางานในวันศุกร์ก่อนสอบ ยิ่งกว่านั้นคือต้องเหนื่อยกับการเรียนๆๆๆๆๆและสอบอย่างไม่มีวันหยุดเลย ปิดเทอมแค่ก็วันเดียวเท่านั้น แถมตอนใกล้สอบจะต้องส่งรายงานก็ยิ่งเหนื่อยเป็นทวีคูณ

5.ค่าอาหารและค่าเครื่องดื่มแพงมาก (กาแฟแก้วละ 40 บาท) ในขณะที่ที่ทำงานเราในแหล่ง Business เช่นสีลมยังขายกาแฟแบบเดียวกันแค่ 25-30 บาทเท่านั้น แต่นักศึกษาจำใจต้องซื้อเพราะไม่มีที่อื่นๆที่จะซื้อได้ คือถ้าเป็นตอนอยู่ตึกเก่าที่รัจจนาการ ร้านกาแฟของเอกชน ไม่ใช่ของมหาลัย ขายแพงมากและคุณภาพไม่ดี เราก็ยังมี starbuck เป็นทางเลือก หรือกาแฟข้างตึกสาธรธานี หรือกาแฟตงฮั้วให้เป็นทางเลือก แม้จะเดินไกลก็ยอม(วะ) มาที่ตึกใหม่มหาลัยเปิดร้านกาแฟเอง -แต่ดันขายแพงกว่าร้านที่รัจจนาการซะอีก คิดหากำไรเกินควรกับนักศึกษา แย่ที่สุด

6. สถานที่ - สภาพห้องเรียนสูงตึกเก่าที่รัจจนาการได้ (ตนอเรียนรัจจนาการเป็นห้อง Lecture thearter, Canteen เล็ก (แถมกินแล้วต้องเดินไปเก็บ), ร้านอาหารมีจำกัด, ราคาอาหารแพง, การจองห้องประชุมกลุ่มย่อยไม่สะดวกเหมือนเดิม (ต้องโทรจอง), Internet ช้ามากๆๆๆๆ เป็นต้น ซึ่งอยากให้ทางมหาลัยปรับปรุงให้ดีเหมือนตอนสมัยที่อยู่ที่ตึกรัจจนาการอ่ะ

วันนี้เลยเห็นอ.นป มาเดินดูความเรียบร้อย (ไม่รู้ว่าเพราะเหตุนี้รึเปล่า) ตอนกลางวัทางมหาลัยจัดเอาอาหารกล่องมาขายพร้อมผลไม้ (กล้วย, แอปเปิ้ล) มาขายชุดละ 35 บาท เพราะว่าวันนี้โรงอาหารไม่เปิด (ฮ่วย)

จริงๆแล้วสิ่งที่ดีๆของมหาลัยก็มีมาก แต่ไว้มาคุยวันหลังละกันนะ วันนี้อารมณ์เสียละ

No comments: